วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กิจกรรมกลางแจง

กิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor Activities)






บทนำ
กิจกรรมกลางแจ้งเป็นกิจกรรมที่การศึกษาปฐมวัยจัดขึ้นนอกห้องเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เคลื่อนไหว ได้แสดงออกอย่างอิสระ ได้ออกกำลัง เป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ได้แก่ แขน ขา และลำตัว ให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคนกิจกรรมกลางแจ้งมีความสำคัญและความเป็นมาอย่างไร?
สถานศึกษาปฐมวัยจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อมุ่งพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ต้านสติ ปัญญา และด้านสังคมให้แก่เด็กปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 และกำหนดกิจกรรมกลางแจ้งเป็นกิจกรรมหลักที่สำคัญไว้ในตารางกิจกรรมประจำวันที่เด็กจะต้องได้รับการส่งเสริมให้เด็กได้ออกกำลังกาย ผ่านการเล่นหลากหลายแบบโดยมีจุดมุ่งหมายให้เด็กเจริญเติบโตเหมาะสมตามวัย มีสุขนิสัยที่ดี ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้คล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข กิจกรรมกลางแจ้งมีประโยชน์ต่อเด็กปฐมวัยอย่างไร?
การออกกำลังกายมีคุณค่าต่อชีวิตซึ่งแพทย์ นักการศึกษา นักกีฬา และผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ทุกสาขาต่างประมวลความรู้และนำเสนอคุณค่าของการออกกำลังกายไว้น่าสนใจ เช่น การออกกำลังกายมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมองคนเราโดยเฉพาะเด็กวัย 3 ขวบแรกของชีวิตที่เซลล์สมองจะสร้างใยประสาท เมื่อเส้นใยประสาทเชื่อมต่อกันมากพอเหมาะ เด็กจะฉลาด การที่ใยประสาทจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น จะต้องอาศัยการออกกำลังกายเป็นสำคัญประการหนึ่ง ขณะ เดียวกันเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ว่าผู้ที่ออกกำลังกายจะเป็นผู้ที่มีความสุข เพราะขณะที่ร่าง กายเคลื่อนไหว จะเกิดแรงกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารดีสร้างความสุขให้ตัวเรา จิตใจจะผ่อนคลาย และเมื่อออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะแข็งแรงมีผลให้รูปร่างลักษณะของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีความเหมาะสม คือ การทรงตัวดี กระดูกแข็งแรง ไม่มีไขมันเพราะร่างกายได้ฝึกซ้อมการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ การทำงานของอวัยวะจะสัมพันธ์กันและทำ งานเป็นปกติ เช่น ระบบขับถ่ายของเสีย ทั้งถ่ายหนัก ถ่ายเบา การขับเหงื่อออกจากผิวหนัง หรือการที่ร่างกายนอนหลับเมื่อถึงเวลาพักผ่อน เกิดจากการที่ร่างกายปรับความสมดุลของร่างกายให้ดี ขณะนอนหลับไตจะทำงานขับของเสียออกจากร่างกาย และขณะเดียวกันร่างกายจะมีพลังเพิ่มขึ้น หากเราพักผ่อนได้เต็มที่ เมื่อตื่นนอนเราจะรู้สึกสดชื่นพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไป และทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง ครูจัดกิจกรรมกลางแจ้งให้ลูกที่โรงเรียนอย่างไร?
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 ได้เสนอแนะกิจกรรมกลางแจ้งสำหรับเด็กปฐมวัยให้ครูจัดไว้ดังนี้ การเล่นเครื่องเล่นสนาม การเล่นเครื่องเล่นสนามจะส่งเสริมให้เด็กได้ออกกำลังกาย พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ เพราะเด็กจะได้ปีนป่าย หมุน โยก ฯลฯ ทางสถานศึกษาควรจัดเครื่องเล่นสนามประเภทต่างๆ ดังนี้คือ เครื่องเล่นปีนป่ายหรือตาข่ายสำหรับปีนเล่น เครื่องเล่นสำหรับหมุน เช่น ม้าหมุน พวงมาลัยรถสำหรับหมุนเล่น ราวโหนขนาดเล็กสำหรับเด็ก ท่อนไม้สำหรับทรงตัวหรือไม้กระดานแผ่นเดียว เครื่องเล่นประเภทล้อเลื่อน เช่น รถสามล้อ รถลากจูง เป็นต้น การเล่นทราย การจัดทรายให้เด็กเล่นเป็นการตอบสนองธรรมชาติของเด็กปฐมวัยที่ชอบเล่นจับสัมผัสสิ่งต่างๆ รอบตัว และสร้างสรรค์ตามจินตนาการ ทรายจึงเป็นสิ่งที่เด็กชอบเล่น ทั้งทรายที่เปียกน้ำ ทรายแห้ง เด็กจะเล่นก่อเป็นรูปร่างต่างๆ และสมมติว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งที่เป็นจริงและเป็นสิ่งที่คิดเอาเอง บางครั้งเด็กต้องการสิ่งของนำมาประกอบเรื่องราว เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ เปลือกหอย ช้อนตักทราย พิมพ์ขนม เป็นต้น การจัดทรายไว้กลางแจ้ง โรงเรียนมักจัดทำเป็นบ่อเพื่อจัดเก็บทรายมิให้กระจัดกระจาย มีหลังคาหรือตาข่ายรองรับใบไม้ที่ร่วงหล่นมา มีรั้วรอบขอบชิดป้องกันสัตว์เข้าไปถ่ายมูลและทำสกปรก การเล่นน้ำ การจัดให้เด็กเล่นน้ำเป็นการตอบสนองธรรมชาติของเด็กปฐมวัยเช่นเดียวกับการจัดทรายให้เด็กเล่น เด็กพอใจที่ได้เล่นน้ำเพราะเด็กใช้น้ำสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่เด็กคิด และเด็กได้ผ่อนคลายความเครียดจากการเล่นน้ำ นอกจากนี้การเล่นน้ำเด็กได้เรียนรู้ธรรมชาติของน้ำด้วย เช่น น้ำเป็นของเหลว น้ำผสมกับสิ่งต่างๆ ได้ การเล่นสมมติในบ้านจำลองหรือบ้านตุ๊กตา จัดให้คล้ายบ้านจริง ใช้วัสดุที่นำมาจากเศษวัสดุประเภท ผ้าใบ กระสอบป่าน ของจริงที่ไม่ใช้แล้ว เช่น หม้อ เตา ชาม อ่าง เตารีด เครื่อง ครัว ตุ๊กตาสมมติเป็นบุคคลในครอบครัว เสื้อผ้าผู้ใหญ่ที่ไม่ใช้แล้ว สำหรับตกแต่งบริเวณคล้ายบ้านจริงๆ บางครั้งอาจจัดเป็นร้านค้าขายของ หรือสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เด็กเล่นสมมติตามจินตนาการของเด็กเอง การเล่นในมุมช่างไม้ เด็กต้องการการออกกำลังในการเคาะ ตอก กิจกรรมการเล่นในมุมช่างไม้นี้เพื่อจะช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยฝึกการใช้มือและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา นอกจากนี้ฝึกให้รักงานและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย การเล่นกับอุปกรณ์กีฬา เป็นการนำอุปกรณ์กีฬามาให้เด็กเล่นอย่างอิสระ หรือใช้ประกอบการเล่นเกมการเล่นที่ให้อิสระกับเด็ก หากมีการแข่งขัน จะไม่เน้นการแข่งขันแบบมีแพ้มีชนะ อุปกรณ์ที่ครูนิยมนำมาให้เด็กเล่นคือ ลูกบอล ห่วงยาง ถุงทราย ฯลฯ เพราะเหมาะกับเด็กปฐมวัย การเล่นเกมการละเล่น เกมการละเล่นที่ครูจัดให้เด็กปฐมวัยเล่นมักเป็นเกมง่ายๆ ทั้งการละเล่นของไทยและการละเล่นสากลที่รู้จักกันทั่วไป และเกมที่ครูประยุกต์ให้เข้ากับหน่วยการสอนที่กำหนดให้เด็กเรียนซึ่งนำมาจากหลักสูตรแกนกลางหรือหลักสูตรสถานศึกษา โดยครูจัดให้เล่นในพื้นที่โล่งกว้าง ส่งเสริมให้เด็กเล่นทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ เป็นเกมสนุกสนานมากกว่าการแข่งขันแพ้ชนะ เพื่อมิให้เด็กเครียดและรู้สึกไม่ดีต่อตนเองที่แพ้หรือไม่ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ ผู้ปกครองจะช่วยส่งเสริม/เพิ่มเติมให้ลูกได้อย่างไร?
การเจริญเติบโตของเด็กปฐมวัยแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันไป พ่อแม่สามารถส่งเสริมลูกด้วยการจัดกิจกรรมการเล่นให้สอดคล้องตามวัยดังนี้ เด็กวัย 1-3 ปี ความเจริญเติบโตทางกระดูกจะเพิ่มทั้งขนาดและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว กล้ามเนื้อใหญ่โตเร็ว แต่กล้ามเนื้อเล็กยังไม่เจริญ ความเจริญของเส้นประสาทเพิ่มจำนวนทำให้มีการเจริญทางสมอง เด็กชอบเล่นคนเดียว ชอบเล่นเลียนแบบ กิจกรรมที่ควรจัดคือ กิจกรรมประเภทดึง ผลัก ดัน ปีนป่าย เดิน เหวี่ยง ทุ่ม กระโดด วิ่ง เลียนแบบสัตว์ เครื่องจักร รถยนต์ รถไฟ กิจกรรมการเล่นกับทราย ดิน วิ่งสไลด์หรือวิ่งอิสระ เด็กวัย 4-5 ปี กระดูกเจริญช้ากว่าเด็กวัย 1-3 ปี กระดูกเหนียว ไม่เปราะบาง กล้ามเนื้อใหญ่เจริญเติบโตโดยเฉพาะส่วนแขน ขา ลำตัว ความสนใจเล่นกิจกรรมเวลาสั้นๆ ชอบทำตามใจตนเอง ไม่ชอบรวมพวก ยังชอบเลียนแบบ มีพลังหรือกำลังเหลืออยู่มากมาย ต้องการเล่นที่ใช้กำลัง กิจกรรมที่พ่อแม่จัดควรเน้นหนักไปในทางนันทนาการ ให้กล้ามเนื้อใหญ่ ส่วนแขน ส่วนขาทำงาน เช่น ให้ควบม้า กระโดด วิ่ง เป็นต้น หากสอนเกมควรใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที เกมที่เล่นควรเปลี่ยนบ่อยๆ ให้โอกาสเด็กเล่นตามลำพังบ้าง ให้เล่นเลียนแบบสัตว์ วัตถุ สิ่งของ เช่น เดินเป็ด เดินไก่ นกบิน รถยนต์ รถไฟ เป็นต้น ส่วนการส่งเสริมให้ใช้พลังมากๆ เช่น ควบม้า วิ่งสไลด์ การเดินตามจังหวะเพลง เป็นต้น เด็กวัย 6 ปี กระดูกเจริญเร็ว ความสูง 2-3 นิ้วต่อปี ช่วงขายาว กล้ามเนื้อเจริญเร็วมาก ทรวดทรงแสดงให้เห็นเด่นชัด หัวใจเต้นเร็ว สามารถทรงตัวได้ดี ต้องการกิจกรรมประเภทเคลื่อนไหว ชอบส่งเสียงดัง กิจกรรมการเล่นที่ช่วยด้านความสูง คือ ห้อยโหน เลี้ยงบอล เล่นเดินทรงตัว เช่น เดินบนราว เดินโดยมีวัตถุวางบนศีรษะ และควรให้พักผ่อนประมาณ 12 ชั่วโมง



เกร็ดความรู้เพื่อครู
ครูควรฝึกสุขนิสัยในการเล่นกิจกรรมกลางแจ้งแก่เด็ก เช่น เล่นเป็นเวลา เมื่อถึงเวลาเลิกก็ฝึกให้เด็กปฏิบัติตามข้อตกลง เล่นในที่สะอาด และปลอดภัยที่ผู้ใหญ่แนะนำ ไม่เล่นของอันตรายและไม่เล่นโลดโผน ไม่เล่นของสกปรก เช่น มูลสัตว์ ขยะมูลฝอย หลังเลิกเล่นแล้วควรทำความสะอาดมือ เท้า ให้สวมเสื้อผ้าที่เหมะสมกับกิจกรรมการเล่นนั้นๆ ควรสวมรองเท้าเมื่อลงเล่นที่พื้นดิน เมื่อเล่นจะต้องระมัดระวังอุบัติเหตุของตนเองและผู้อื่น เช่น เล่นแกว่งชิงช้า ควรโล้อย่างระมัดระวัง ดูเพื่อนก่อนโล้ว่าอยู่ข้างหลังหรือไม่ เล่นตามข้อตกลง และช่วยเก็บของเล่นเข้าที่อย่างมีระเบียบภายหลังการเล่น

แหล่งข้อมูล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น